ทำงานหนักไปหรือไม่ มีการวิจัยและวิเคราะห์พบว่าในช่วงเวลาของคนเรานั้นมีการทำงานที่หนักนั่นก็คือในช่วงวัยทำงานนั่เอง ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงแห่งการทำงาน แต่การทำงานที่มากและเกินติ่ความสามารถของร่างกายนั้นทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังในด้านสุขภาพรวมถึงปัญหาเรื้อรังทางด้านจิตใจด้วย
ดังนั้นแล้วในการทำงานที่มากเกินไป อาจจะส่งผลกระทบที่หลากหลายด้านไม่เพียงทางด้านสุขภาพเท่านั้นแต่รวมไปถึงทางด้านความเครียดและความคิดต่างๆ ทำให้ส่งผลกระทบมากมายต่อร่างกายด้วยนั่นเอง
แน่นอนว่าในการทำงานหนักมีความหมายเพราะเป็นเครื่องที่อาจจะการันตรีสู่ความสำเร็จได้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงานก็อาจจะฎิเสธไม่ได้ว่าการทำงานหนักนั้นมีประโยชน์เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยในการพัฒนาตนเองและการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นที่อยู่รอบตัวคุณรวมทั้งการทำผลงานที่ดีในการทำงานแต่ในทางกลับกันอาจกล่าวได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุและมีปลกระทบที่มาจากการทำงานหนักเกินไป
สำหรับแนวคิดการทำงานหนักเกินไปนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นสิ่งที่มีการพูดถึงอยู่เสมอ แต่จุดสำคัญเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด ที่ผ่านพ้นมานั้นเพราะการทำงานมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะจะเป็นการทำงานที่บ้านด้วยสถานการณ์ในตอนนั้นเกิดการล็อคดาวน์ทำให้ไม่ต้องไปทำงานที่ออฟฟิศหรือข้างนอก
ทำให้เมื่ออยู่บ้านนั้นพบว่า การทำงานของคนส่วนใหญ่มีชั่วโมงในการทำงานที่มากขึ้น เพราพไม่ได้มีการแบ่งแยกเวลาการทำงานและเวลาการอยู่บ้านอย่างชัดเจน หรืออาจจะเกิดจากความเพลิดเพลินเมื่อเรานั้นทำงานอยู่ที่บ้านนั่นเอง
จากการสำรวจพบว่าพนังานประจำส่วนใหญ่ที่ทำงานที่บ้านมีการทำงานที่มากขึ้นและเกินปแดชั่วโมงรวมถึงการทำงานในวันหยุดมีอัตรามากถึง 34% ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะกล่าวได้ว่า คนส่วนใหญ่มีความหมกหมุ่นในการทำงานอย่างจริงจัง
และสำหรับพนักงานที่ทำงานหนักและพบว่ามีความกดดันจากการทำงานในช่วงการระบาดของโควิดนั้นก็คือแพทย์เพราะถือว่าเป็นหน่วยหน้าในการรับมือของโรคระบาดนี้ ทำให้พบแพทย์ส่วนใหญ่นั้นมีถาวะกดดันบางรายเกิดความเครียดและรวมถึงความเหนื่อยล้าทางร่างกาย
หลังจากการระบาดพบว่าคนส่วนใหญ่นั้นเริ่มมีการหมดไฟในการทำงานด้วยและสาเหตุหลักที่เกิดขึ้นก็คือรู้สึกเหนื่อยล้า,รู้สึกแง่ลบหรือถากถางต่องานของตน ตรวจ HIV ไม่เจอ เนื่องจากมีการหมกหมุ่นกับงานที่นานเกินไป,ประสิทธิภาพระดับมืออาชีพลดลง นั่นก็ทำให้เกิดความเครียดขึ้น
และผู้คนส่วนใหญ่ก็จะมองว่าเมื่อเราทำงานหนักเกินไปและล้มเหลวในการจัดลำดับความสำคัญในการดูแลตนเอง ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจย่ำแย่และส่งผลกระทบในระยะยาว ดังนั้นแล้วในการทำงาน การทำงานอย่างเหมาะสมการไม่หมกหมุ่นและการปล่อยวางกับงานที่ทำเมื่อถึงเวลานั้นก็เป็นสิ่งที่จะช่วยลดความรู้สึกว่าเรานั้นทำงานหนักไปหรือไม่นั่นเอง รวมถึงการจัดการงานอย่างเป็นลำดับและพักผ่อนที่ดีด้วย