ต้องยอมรับนะว่าในสมัยนี้อาหารที่มีแต่ไขมันผสมอยู่มากกว่าปกติ ซึ่งทำให้คนในสมัยนี้ล้วนทานอาหารที่มีแต่ไขมันทั้งนั้น และอย่างที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้เป็นเวลาที่เร่งด่วนจึงไม่ค่อยมีคนได้ออกกำลังกันมากนัก ซึ่งนั้นคือสาเหตุที่ทำให้เราเสี่ยงที่จะเป็นโรคไขมันพอกตับกันค่อนข้างมาก
การเกิดโรคไขมันพอกตับนั้น เกิดจากสาเหตุที่เราไม่สามารถนำไขมันมาใช้ได้หมด จึงเกิดการสะสมขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไขมันเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่เราทาน แป้ง น้ำตาล และไขมัน ในปริมาณที่เยอะและไม่สามารถนำออกไปใช้ได้หมดนั้นเอง นอกจากนั้นการเป็นไขมันพอกตับยังเกิดจากการดื่มสุราและการมีแอลกอฮอล์ในร่างกายเป็นจำนวนมากอีกด้วย
แต่ทว่าแอลกอฮอล์นั้นก็มิได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราเกิดโรคไขมันพอกตับหรอกนะ เพราะสาเหตุที่สำคัญหรือสาเหตุหลักๆมาจากการกินอาหารจำพวกมันจัด อาหารหวาน หรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปนั้นเอง การทานอาหารจำนวนนั้นมากๆมันจะเปลี่ยนไปเป็นไตรกลีเซอไรด์ในตับ
ถ้าหากมีไตรกลีเซอไรด์ในตับมากขึ้นเรื่อยๆ และร่างกายก็ไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด มันจะเกิดภาวะสะสมในที่สุด และการเกิดภาวะไขมันพอกตับอย่างร้ายแรงที่สุดนั้นก็คือการอ้วน น้ำหนักตัวที่เกินเกรณ์ การเป็นเบาหวาน และอาจจะเป็นไขมันในเลือกสูง ซึ่งนั้นอาจจะส่งผลรวมไปถึงการเป็นโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับตับของเราได้อีกด้วย เช่นโรคไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี
คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้ยาบางชนิดมีผลร้ายแรงต่อตับ
สำหรับยาที่เราทานเพื่อป้องกันโรคต่างๆนั้น มีบางชนิดที่สามารถส่งผลกับตับของเราได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดเหล็กเกินในตับได้
เราจะมีความเสี่ยงมากหรือน้อย มาดูกันเลย
- เราจะสามารถตรวจหาน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปริมาณปกติหรือสูงมากกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- การตรวจนั้นอาจจะดูเรื่องเกี่ยวกับไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงหรือมากกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- การตรวจวัดความดันโลหิตพบว่าสูง นอกจากจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจแล้วยังเป็นตัวกระตุ้นให้เป็นไขมันพอกตับได้อีก
- การวัดรอบเอว สำหรับการวัดรอบเอวของผู้ชายและผู้หญิงนั้น จะสามารถบอกได้ โดยผู้ชาย รอบเอวที่มากกว่า 40 นิ้ว และผู้หญิงรอบเอวมากกว่า 35 อาจเสี่ยงต่อสภาวะไขมันพอกตับได้เป็นอย่างมาก